รถญี่ปุ่นกับรถยุโรป อะไรปลอดภัยกว่ากัน Euro NCAP มีคำตอบ

รถญี่ปุ่นกับรถยุโรป อะไรปลอดภัยกว่ากัน Euro NCAP มีคำตอบ

รถญี่ปุ่นกับรถยุโรป อะไรปลอดภัยกว่ากัน Euro NCAP มีคำตอบ

รถญี่ปุ่นกับรถยุโรป อะไรแข็งกว่ากัน? คำถามสุดคลาสสิคที่เป็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน ว่ากันว่ารถยุโรปใช้เหล็กทั้งแผ่น แข็ง ทน ชนรถญี่ปุ่นเมื่อไหร่ รถญี่ปุ่นเสียหายกว่ามาก แต่คำกล่าวเหล่านี้มักมาจากประสบการณ์ส่วนตัว มาจากการดูข่าว ฟังมาจากเพื่อน หรือประสบการณ์ส่วนตัว การประเมินเหล่านี้อาจขาดความเที่ยงตรงและเป็นกลาง Goo Inspection แนะนำให้ลองอ้างอิงระดับความปลอดภัยจาก Euro NCAP ครับ ส่วน Euro NCAP คืออะไร ทดสอบอะไร ดูข้อมูลได้จากช่องทางไหนบ้าง ไปดูกันครับ

EURO NCAP คืออะไร

"European New Car Assessment Program " (โครงการประเมินความปลอดภัยของรถยนต์ใหม่ในยุโรป) หรือที่เรียกว่า "Euro NCAP" เป็นองค์กรที่ประเมินและให้คะแนนความปลอดภัยของรถยนต์ในยุโรป โดยมีการทดสอบความปลอดภัยของรถในหลายสถานการณ์ เช่น การชนหน้าหลัง การชนข้าง การชนแบบออฟเซ็ท และการป้องกันการชนกัน โดยใช้กระบวนการและมาตรฐานการทดสอบที่เข้มงวดและอยู่ในระดับสูง

Euro NCAP ใช้การทดสอบและการประเมินต่างๆ เพื่อให้คะแนนความปลอดภัยของรถยนต์ในแต่ละประเภท คะแนนที่ได้จะแสดงถึงความปลอดภัยของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับความคุ้มครองและความปลอดภัยของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคนอื่น ๆ ที่อาจอยู่ในบริเวณใกล้เคียงขณะเกิดอุบัติเหตุ

ผลการประเมินความปลอดภัยของรถยนต์จาก Euro NCAP มีผลกระทบต่อการขายและการผลิตรถยนต์ในยุโรป การได้รับคะแนนความปลอดภัยสูงจาก Euro NCAP จะช่วยให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในรถยนต์ที่เลือกซื้อ และส่งเสริมให้ผู้ผลิตรถยนต์พัฒนาและปรับปรุงระบบความปลอดภัยของรถยนต์ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงขึ้นอีกด้วย

Euro NCAP ทดสอบอะไรบ้าง

Euro NCAP มีกระบวนการทดสอบรถยนต์เพื่อประเมินความปลอดภัยในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการใช้งานประจำวัน กระบวนการทดสอบสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้:

การชนหน้า (Frontal Impact Test):

การทดสอบการชนของรถยนต์ในส่วนหน้า โดยใช้รถทดสอบกับโครงสร้างและพื้นผิวที่มีความต้านทานแต่ละราย เพื่อประเมินว่ารถยนต์มีความคุ้มครองอย่างไรเมื่อเกิดการชนกันในส่วนหน้าของรถ

การชนข้าง (Side Impact Test):

การทดสอบการชนข้างของรถยนต์ เป็นการทดสอบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชนกันในส่วนข้างของรถ การทดสอบนี้จะประเมินความคุ้มครองของผู้ขับขี่และผู้โดยสารจากการชนข้าง

การชนแบบออฟเซ็ท (Pole Side Impact Test):

การทดสอบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชนกันกับสิ่งกีดขวาง เช่น เสาไฟฟ้าหรือต้นไม้ การทดสอบนี้จะเน้นการประเมินความปลอดภัยของหัวและลำตัวของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

การป้องกันการชนกัน (Crash Avoidance Test):

การทดสอบระบบการป้องกันการชนกันที่ใช้เทคโนโลยีในการตรวจจับสิ่งกีดขวางหรือรถข้างหน้า และจะทดสอบความสามารถในการหยุดรถหรือลดความเร็วเมื่อตรวจจับความเสี่ยง

การทดสอบระบบเบรก (Braking Test):

การทดสอบระบบเบรกเมื่อรถยนต์ต้องหยุดในระยะทางที่กำหนด การทดสอบนี้เป็นการประเมินความสามารถของระบบเบรกในการควบคุมรถยนต์ให้หยุดทันทีในสภาพฉุกเฉิน

การป้องกันการชนกันข้างหลัง (Whiplash Test):

การทดสอบความสามารถในการป้องกันการเกิดอาการบาดเจ็บในส่วนคอขณะเกิดการชนข้างหลัง

การทดสอบเหล่านี้จะแบ่งคะแนนตามหลายปัจจัย เช่น ความคุ้มครองของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ระบบเบรก ระบบป้องกันการชน ระบบควบคุมการขับขี่และอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่น ๆ นอกจากนี้ คะแนนที่ได้จะรวมกันเพื่อให้คะแนนความปลอดภัยรวมของรถยนต์ดังนั้นผู้บริโภคสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อเปรียบเทียบความปลอดภัยระหว่างรถยนต์ที่ต้องการซื้อกันได้

ส่วนภูมิภาคอาเซียน ดูผลทดสอบ ASEAN NCAP

"ASEAN New Car Assessment Program " (โครงการประเมินความปลอดภัยของรถยนต์ใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) หรือที่เรียกว่า "ASEAN NCAP" เป็นโครงการที่ทดสอบและประเมินความปลอดภัยของรถยนต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเป้าหมายในการสร้างความตระหนักรู้และการเลือกซื้อรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูงเช่นเดียวกับ Euro NCAP และ NCAP อื่น ๆ


โครงการ ASEAN NCAP ทำการทดสอบรถยนต์ในหลายประเภทการชน รวมถึงการทดสอบในสถานการณ์ที่เป็นไปได้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการประเมินตามหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมกับเนื้อหาและสถานการณ์ที่พบในภูมิภาค หลักเกณฑ์การประเมินความปลอดภัยรถยนต์ของ ASEAN NCAP ได้รับการนำเข้ามาจากโครงการ NCAP ระดับสากลและถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดยการให้คะแนนความปลอดภัยของรถยนต์โดย ASEAN NCAP จะช่วยให้ผู้บริโภคมีข้อมูลเพื่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และส่งเสริมให้ผู้ผลิตรถยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พัฒนาและปรับปรุงคุณภาพความปลอดภัยของรถยนต์ในท้องตลาดให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงขึ้น

หากเป็นรถยนต์มือสอง รถยุโรปหรือรถญี่ปุ่นปลอดภัยกว่ากัน

กรณีของรถยนต์มือสอง นอกจากความปลอดภัยของรถรุ่นที่เลือกแล้ว ยังต้องดูสภาพรถคันที่เลือกซื้ออีกด้วย Goo Inspection แนะนำให้แยกมองเป็น 2 ส่วนครับ คือ ส่วนโครงสร้างที่ส่งผลต่อความปลอดภัย และ ส่วนสวยงามที่ไม่ต้องส่งผลต่อความปลอดภัย

ส่วนหลังนี่ค่อนข้างง่ายครับ เพราะเป็นสิ่งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ผู้ใช้ทั่วไปเข้าใจได้ง่าย พอตรวจสอบเองได้ แต่ส่วนแรกนี่สิ เฟรม หรือ แชสซี และตัวถัง ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยในการขับขี่ การอ้างอิงเกรดจาก EURO NCAP ซึ่งตรวจเฉพาะรถใหม่คงไม่เพียงพอ ควรมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถจำแนกโครงสร้างรถที่ผ่านอุบัติเหตุ รถที่ผ่านการซ่อมโครงสร้างได้ เพื่อประกอบการพิจารณาซื้อขาย

Goo Inspection ผู้นำด้านการตรวจสภาพรถยนต์มือสอง

Goo Inspection คือบริษัทตรวจสภาพรถยนต์มือสองชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ตามมาตรฐาน JAAA ภายใต้การบริหารงานของบริษัท คาร์ เครโดะ (ประเทศไทย) จำกัด Goo Inspection ได้ขยายกิจการไปในหลายจังหวัด สร้างเครือข่ายการตรวจรถตามลานประมูล เต็นท์รถ และ บริการตรวจรถส่วนบุคคล ( Goo Inspection Trust Service ) ถือเป็นอีกหนึ่งหน่วยธุรกิจที่ช่วยเพิ่มความโปร่งใส และความสบายใจในการซื้อรถยนต์มือสอง

สรุป รถญี่ปุ่น หรือ รถยุโรปแข็งกว่ากัน ASEAN NCAP และ Euro NCAP เป็นแหล่งข้อมูลที่พอจะให้คำตอบคุณได้ แต่ในส่วนของรถยนต์มือสอง ถามหารายงานการตรวจสภาพ Goo Inspection จากดีลเลอร์รถทุกครั้งนะครับ เพื่อเพิ่มความสบายใจ โปร่งใส และมั่นใจในการซื้อรถ

สนใจตรวจสภาพรถกับ Goo Inspection
ติดต่อไลน์ @gooinspection_th
ค้นหารถยนต์มือสองที่ตรวจสภาพแล้ว คลิก