ลิเทียม ปัญหาใหญ่ที่ตามมากับกระแสรถยนต์ไฟฟ้า

ลิเทียม ปัญหาใหญ่ที่ตามมากับกระแสรถยนต์ไฟฟ้า

ลิเทียม ปัญหาใหญ่ที่ตามมากับกระแสรถยนต์ไฟฟ้า

รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) ถูกกล่าวขานกันว่าเป็นทางเลือกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและยับยั้งมลพิษทางอากาศ อีกทั้งยังเป็นทางเลือกที่ขนส่งสาธารณะหลายประเทศเริ่มนำไปใช้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (lithium-ion) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า กลับมาพร้อมกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ในบทความนี้ เราจะสำรวจปัญหาทางสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม รวมถึงความเสี่ยงต่อชุมชนท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสำรวจความพร้อมของทรัพยากรลิเทียมและประเทศที่ผลิตลิเทียม

การบูมของแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน

แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเป็นหัวใจของรถยนต์ไฟฟ้า ให้พลังงานที่จำเป็นในการขับเคลื่อนรถยนต์ ลักษณะที่สามารถชาร์จได้คล้ายโทรศัพท์มือถือทำให้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภค ความต้องการในแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่พุ่งสูงส่งเสริมให้เกิดการทำเหมืองและเพิ่มกำลังการผลิตลิเทียมไอออน

ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของการทำเหมืองลิเทียม

ในขณะที่แบตเตอรี่ลิเทียมเป็นสิ่งจำเป็นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการใช้รถยนต์สันดาป กระบวนการสกัดลิเทียมมาพร้อมกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ต่อไปนี้คือปัญหาที่สำคัญ:

การใช้น้ำ:

การสกัดลิเทียมอาศัยการนำน้ำใต้ดินมาใช้จำนวนมาก ในพื้นที่ที่มีทรัพยากรน้ำจำกัด การทำเหมืองลิเทียมอาจทำให้ระบบนิเวศท้องถิ่นได้รับผลกระทบ ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนน้ำสำหรับชุมชนและการเกษตร

การปนเปื้อนทางเคมี:

กระบวนการสกัดมักต้องใช้สารเคมีรวมถึงกรดและสารละลายซึ่งอาจไหลเข้าสู่ดินและน้ำรอบ ๆ โดยอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบนิเวศและสัตว์ป่าในบริเวณนั้น

การทำลายทรัพยากรชีวภาพ:

กิจกรรมการทำเหมืองอาจทำให้ระบบนิเวศและทรัพยากรชีวภาพถูกทำลาย ลานว่างที่เกิดขึ้นจากการขุดเหมืองทำให้พืชบริเวณนั้นหายไป สัตว์สูญเสียที่อยู่

การใช้พลังงาน:

กระบวนการสกัดลิเทียมใช้พลังงานมาก จึงปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากตามมาด้วย

ผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่น

การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของกิจการทำเหมืองลิเทียมกระทบต่อชีวิตอาชีพและความเป็นอยู่ของชุมชนท้องถิ่นได้ไม่น้อยไปกว่าผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นี่คือปัญหาที่เผชิญโดยชุมชนเหล่านี้:

สิทธิ์ในที่อยู่อาศัย:

ชุมชนท้องถิ่นอาจถูกขับออกจากที่อยู่อาศัยของพวกเขา เพื่อนำพื้นที่เหล่านั้นไปเป็นที่ตั้งของการทำเหมือง

ปัญหาสุขภาพ:

การสัมผัสกับสารพิษและสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับการทำเหมืองอาจเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงปัญหาระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง

ผลกระทบทางเศรษฐกิจ:

การทำเหมืองลิเทียมอาจสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจก็จริง แต่อาจไม่ได้สร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อรายได้ของคนในชุมชนมากนัก เมื่อพิจารณาร่วมกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทำตาม กลับกลายเป็นการสร้างความลำบาก ค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพที่เพิ่มขึ้น

ความพร้อมของลิเทียมและการผลิต

ลิเทียมไม่ใช่ทรัพยากรที่ไม่มีที่สิ้นสุด มีข้อกังวลเกี่ยวกับความพร้อมของการนำลิเทียมมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักของรถยนต์ คาดการณ์กันว่าทั่วโลกมีลิเทียมประมาณ 79 ล้านเมตริกตัน การผลิตลิเทียมส่วนใหญ่มาจากประเทศเหล่านี้:

ออสเตรเลีย: ออสเตรเลียเป็นผู้ผลิตลิเทียมขนาดใหญ่ มีทรัพยากรมาก และเหมืองหลายแห่งกำลังดำเนินการอยู่

ชิลี: ชิลีผู้ผลิตผลิตลิเทียมรายใหญ่ โดยเฉพาะในรูปแบบลิเทียมคาร์บอเนตและลิเทียมคลอไรด์

จีน: จีนมีบทบาทสำคัญในการผลิตและการแปรรูปแร่ลิเทียม มีผู้ผลิตหลายเจ้าดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับแบตเตอรี

อาร์เจนตินา: อาร์เจนตินามีทรัพยากรลิเทียมมาก โดยส่วนใหญ่พบบนในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

ประเทศอื่น ๆ: ประเทศอื่น ๆ เช่น แคนาดา ซิมบับเว เเละโปรตุเกส ก็มีทรัพยากรลิเทียม แม้จะไม่มีบทบาทสำคัญในการผลิตที่ระดับโลก

สรุป

ความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ลีเทียมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่การผลิตลิเทียมกลับสร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม มีอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยสร้างความยั่งยืนในวงการรถยนต์ นั่นก็คือ การใช้รถยนต์ใช้แล้ว รถยนต์ที่ยังมีสภาพดี ตรงตามความต้องการและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน จะช่วยลดการทิ้งของเสีย ใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า ดังนั้น การ Reuse หรือการใช้ซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์สันดาป หรือรถยนต์ไฟฟ้า จึงควรอยู่ในตัวเลือกของผู้ใช้รถใช้ถนน

คนหลายคนอาจมีภาพจำว่า “รถยนต์ใช้แล้ว” เป็นเรื่องน่ากลัวและไม่โปร่งใส แต่ในความเป็นจริง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา วงการรถยนต์ใช้แล้วพัฒนาไปมาก ผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองส่วนใหญ่เลือกใช้บริการผู้ชำนาญในการตรวจรถ ให้เข้ามาเป็นคนกลางในการตรวจสอบความสมบูรณ์ของรถ แล้วลงบันทึกอย่างเป็นกลาง หากรถยนต์เคยถูกชนหนัก จมน้ำ มีการซ่อมโครงสร้าง หรือแม้แต่ร่องรอยขีดข่วน ก็จะถูกบันทึกลงในรายงาน สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ซื้อรถมือสองสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ปลอดภัย และอุ่นมากขึ้นนั่นเอง